กว่าจะมาเป็น "กลอย" ให้เราได้กิน

กลอย คือ พืชตระกูลเถาชนิดหนึ่ง มีหัวคล้ายมันมีลักษณะค่อนข้างกลม มักพบขึ้นในป่า กลอยนี้บรรพบุรุษเราใช้ทานแทนข้าว เพราะถึงคราวจำเป็นต้องเดินทางในป่าการจะหาข้าวมาหุงกินก็ย่อมยาก จึงเป็นที่มาของคำว่า "กินเผือกกินกลอย"

ปัจจุบันกลอยเริ่มหาทานได้ยากขึ้น เพราะป่าก็เริ่มน้อยลงรวมถึงวิธีการนำกลอยมาทำเป็นอาหารก็เริ่มมีผู้รู้วิธีทำให้ปลอดภัยน้อยลง อีกหน่อยกลอยคงหายไป จะว่าอร่อยสำหรับคนชอบกินหรือเคยกินก็อร่อย จะว่าไม่อร่อยก็ไม่อร่อย เพราะตัวของกลอยเองจะไม่ค่อยมีรสชาติ ถ้าเอาไปนึ่งรวมกับข้าวเหนียวก็จะเพิ่มความกรุบกรอบ มันเล็กน้อยได้เป็นอย่างดี หรือจะนำไปผสมแป้ง งาชุบกล้วยแขกทอดบางที่ก็อาจจะทำ แต่สมัยนี้ไม่ค่อยหาได้แล้วกล้วยแขกทอดใส่กลอย

ประโยชน์
-หัว แก้เถาดาน แก้อาการแข็งเป็นลำในท้อง หุงเป็นน้ำมันใส่แผล กัดฝ้า กัดหนอง
-ราก บดให้ละเอียด ผสมกับน้ำมันมะพร้าว ใบยาสูบ ใบลำโพง หรือพริกใช้พอกแผล เพื่อฆ่า ตัวหนอนในแผลสัตว์เลี้ยง
-ทางอาหาร หัวกลอย มีแป้งในปริมาณสูง
-ใช้ประกอบอาหารได้ เช่น นึ่งกับข้าวเหนียว หรือแกงบวด ทำขนม

***ข้อควรต้องรู้เกี่ยวกับกลอย***
หัวสด ก่อนนำไปทำอาหารควรปอกเปลือก ฝานเป็นชิ้นบางๆ ใส่ชะลอมนำไปแช่น้ำไหล ประมาณ 3 วัน หรือหมักเกลือ 1 คืน แล้วนำมาคั้นน้ำทิ้งทำเช่นเดิม เป็นเวลา 3 วัน จึงนำไปปรุงเป็นอาหาร หรือหั่นเป็นแผ่นเล็กๆ ผึ่งแดดให้แห้งชุบแป้งทอดกับกล้วยน้ำว้า หัวใต้ดินมีสารพิษ แอลคาลอยด์ ละลายน้ำได้ดี และมีผล ทำให้เกิด”อาการ” คลื่นไส้ อาเจียนมึนงง คันคอ ตาพร่า เป็นลม การปฐมพยาบาลทำให้อาเจียนให้รีบนำส่งโรงพยาบาลทันที

ที่มา : portamoda.com