การดูแลผิวหนังเมื่อเป็นเบาหวาน

เบาหวานเป็นกลุ่มโรคที่เกี่ยวกับการเผาผลาญอาหารซึ่งมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานาน ซึ่งเกิดจากตับอ่อนผลิตอินซูลินไม่เพียงพอ หรือเซลล์ร่างกายไม่สามารถตอบสนองกับอินซูลินได้อย่างเหมาะสม เป็นผลให้ร่างกายไม่สามารถดึงน้ำตาลไปใช้ได้ จนทำให้น้ำตาลตกค้างอยู่ในกระแสเลือดในปริมาณมาก

เบาหวานและปัญหาผิวหนัง

นอกเหนือจากอาการเบาหวานที่พบได้ทั่วไป เช่น น้ำหนักลด ปัสสาวะบ่อย กระหายน้ำและอยากบริโภคอาหารมากขึ้น รวมไปถึงอาการที่ไม่ชี้ชัดอื่นๆ เช่น ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย และแผลหายช้า อีกอาการหนึ่งที่เห็นได้ก็คือาการคันที่ผิวหนัง เนื่องจากการปัสสาวะที่บ่อยขึ้น ทำให้ร่างกายขาดน้ำ ผิวหนังจึงขาดความชุ่มชื่น นอกจากนี้ระบบไหลเวียนโลหิตที่ทำงานได้ประสิทธิภาพต่ำลง และผิวหนังที่หนาขึ้น ทำให้ผิวหนังแห้ง และหยาบกร้าน เสี่ยงต่อการสะสมของเชื้อโรคและแบคทีเรียได้

เมื่อผิวมีอาการแห้งและระคายเคือง ผู้ป่วยส่วนใหญ่จึงเริ่มเกา จนผิวหนังเป็นแผล แต่เนื่องจากเลือดของผู้ป่วยมีน้ำตาลเป็นจำนวนมากจึงเป็นอาหารชั้นดีให้กับเชื้อโรค และระบบไหลเวียนโลหิตก็ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ จนทำให้เลือดไปเลี้ยงผิวหนังบริเวณที่เป็นแผลได้น้อย แผลของผู้ป่วยโรคเบาหวานถึงหายได้ช้า

การดูแลผิวหนังเมื่อเป็นเบาหวาน

รับประทานอาหารที่อุดมด้วยวิตามินเอและซี เช่น ผลไม้รสเปรี้ยว ที่มีคุณสมบัติในการดูแลสุขภาพผิวให้ดี ทั้งยังช่วยเสริมสร้างเซลล์ผิวหนัง ช่วยดูแลให้แผลสมานเร็ว และทำให้ผิวชุ่มชื้น รวมถึงดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8-10 แก้วอีกด้วย

ทำความสะอาดร่างกายด้วยน้ำเย็น หลีกเลี่ยงน้ำอุ่นที่ยิ่งทำให้ผิวแห้ง และคุณควรใช้สบู่หรือยาสระผม รวมไปถึงผงซักฟอกที่มีสูตรอ่อนโยน เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวแพ้ คัน และระคายเคืองได้

เช็ดตัวให้แห้งก่อนแต่งตัวเสมอ เพื่อป้องกันการอับชื้นที่ก่อให้การสะสมของเชื้อโรคและแบคทีเรีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณข้อพับอย่าง ข้อศอก เข่า หลังคอ ง่ามนิ้ว รวมไปถึงอาการส้นเท้าแตก ซึ่งคุณสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่สำหรับวิธีการเยียวยา อย่างไรก็ดีหากผิวมีอาการคัน คุณสามารถโรยแป้งฝุ่นเพื่อช่วยบรรเทาอาการในเบื้อต้นได้

บำรุงผิวเป็นประจำทุกวัน ทั้งเช้าและเย็นด้วยมอยซ์เจอไรเซอร์ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ทีมีส่วนประกอบของน้ำหอมและแอลกอฮอล์เพราะส่วนประกอบเหล่านี้สามารถทำให้ผิวระคายเคืองได้

หลีกเลี่ยงการเกาหรือขีดข่วนตามร่างกายเมื่อมีอาการคันหรือระคายเคือง ควรล้างบริเวณนั้นด้วยน้ำหรือทาครีมบำรุง และหมั่นตรวจเช็คว่าร่างกายมีแผลหรือไม่ หากพบว่ามีแผลควรรีบดูแลแผลในทันที โดยใช้น้ำเกลือและปิดแผล หากเป็นแผลใหญ่ควรพบแพทย์ให้เร็วที่สุด 

หากต้องอยู่ในห้องแอร์ตลอดทั้งวัน หรือช่วงฤดูหนาวที่มีอากาศแห้ง หาทางทำให้ผิวชุ่มชื่น ไม่ว่าจะเป็นการทาครีมหรือการทานอาหารที่มีประโยชน์สำหรับผิว คุณอาจจะหาตัวช่วยอื่นๆ เช่น การติดตั้งเครื่องให้ความชื้นในบ้าน เป็นต้น

เมื่อคุณเป็นโรคเบาหวาน นอกจากจะดูแลรักษาตัวเองจากโรคแล้ว อย่าลืมดูแลรักษาผลข้างเคียงอื่นๆ เช่น ปัญหาทางผิวหนังที่เกิดขึ้นควบคู่กับโรคเบาหวาน ลองทำตามวิธีข้างต้นที่เรารวบรวมมา เพื่อดูแลไม่ให้ผิวเป็นแผลและหายช้าจนสร้างปัญหาอื่นๆ ให้กับคุณได้