ถ้าพูดถึงผงอบเชย หลายคนยังอาจนึกภาพไม่ออกว่ามันคืออะไร แต่ถ้าเปลี่ยนชื่อเรียกเป็นซินนามอนคงพอร้องอ๋อกันบ้างใช่มั้ยคะ เจ้าอบเชยหรือซินนามอนนี้เป็นสมุนไพรประเภทเปลือกไม้ที่มีกลิ่นหอมหวาน จึงนิยมนำมาใช้ปรุงแต่งอาหารประเภทต่างๆ ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น กาแฟ ขนมเค้ก ซินนามอนโรล และรวมไปถึงของคาวด้วยอย่างอาหารไทยที่ใช้บ่อยๆ ก็คือ พะโล้ นั่นเอง
______________________________________________________________________________________________
อบเชยช่วยลดความอ้วนได้อย่างไร
อบเชยนั้นมีสรรพคุณทางยาอยู่หลายอย่าง แต่วันนี้เราจะขอโฟกัสที่ความสามารถในการช่วยลดความอ้วนเพียงเท่านั้นค่ะ ดร.ริชาร์ด แอนเดอร์สัน จากมลรัฐเมอรี่แลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เคยศึกษาวิจัยและพบว่าอบเชยนั้นมีคุณสมบัติช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ เพราะอบเชยมีคุณสมบัติคล้ายคลึงกับอินซูลิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่จะดึงเอาน้ำตาลในเลือดไปใช้ ปัจจุบันนี้ก็มีการใช้อบเชยในการช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วย เบาหวานอยู่ทั่วไป เป็นวิธีการที่ได้รับการยอมรับทางการแพทย์และวารสารโรคเบาหวานต่างๆ นอกจากนั้น อบเชยยังช่วยลดระดับไตรกลีเซอไรด์และคลอเรสเตอรอลในเลือด แถมยัง ช่วยลดอาการปวดประจำเดือนได้อีก (ตัวช่วยของลูกผู้หญิงจริงๆ ค่ะ T_T)
สำหรับผลดีต่อผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก คุณสมบัติการช่วยลดน้ำตาลได้เลือดได้ก็เป็นตัวช่วยชั้นดีสำหรับสาวๆ ที่ชอบของหวานอยู่แล้ว เพราะจะช่วยลดน้ำตาลส่วนเกินที่ทำให้เราอ้วนขึ้น และก็ยังมีคุณสมบัติช่วยส่งเสริมการทำงานของลำไส้ให้ดีขึ้น และช่วยในการเผาผลาญไขมันได้อีกด้วย วิธีการใช้นั้นมีรูปแบบแตกต่างกันไป แต่วิธีที่สะดวกที่สุดคือดังนี้ค่ะ
- ใช้ผสมกับอาหารหรือเครื่องดื่ม โรยผงซินนามอนใส่ในอาหารหรือเครื่องดื่ม (โดยเฉพาะพวกเครื่องดื่มหวานๆ หรือขนมหวาน)ครั้ง ละ 1/4 ช้อนชา กะปริมาณแล้วให้วันหนึ่งร่างกายได้รับซินนามอนประมาณ 1 ช้อนชา จะมีผลช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้ค่ะ
- ใช้คู่กับน้ำผึ้งในส่วนผสมการทำขนมต่างๆ เปลี่ยน ส่วนผสมในการทำขนมหวาน จากน้ำตาลทรายขาว เป็นน้ำผึ้ง ที่ถึงแม้จะยังเป็นน้ำตาลเหมือนกัน (นั่นหมายความว่า ทานเยอะๆ ก็อ้วนอยู่ดี) แต่น้ำผึ้งมีคุณสมบัติอื่นที่ดีต่อสุขภาพมากกว่า และเป็นน้ำตาลไม่ขัดสี ร่างกายจะดูดซึมได้ดีกว่า และซินนามอนก็จะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้อีก หรือนอกจากจะใช้ทำขนมแล้ว บางคนอาจชงดื่มเป็นน้ำผึ้งผสมมะนาวและอบเชย ทานในตอนเช้า และตอนก่อนเข้านอนก็ได้ค่ะ
- ใช้ก้านอบเชยคนกับเครื่องดื่ม คนชอบดื่มกาแฟบางคนอาจเคยเห็นว่าตามร้านจะมีบริการก้านอบเชยให้ อันนี้ก็ใช้ได้เหมือนกันค่ะ อาจจะใช้คนกับกาแฟหรือชาก็ได้ตามชอบ กลิ่นมันจะหอมๆ (สำหรับคนชอบซินนามอนน่ะนะ)
- ทานในรูปแบบแคปซูล วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบกลิ่นและต้องการความสะดวก แต่มันจะติดตรงราคาที่จะแพงกว่าซื้อแบบผงมาใช้เองสัก 2 – 3 เท่าในปริมาณที่เท่ากัน ตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับความพอใจค่ะ แต่แนะนำว่าให้ซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้ และมีคุณภาพด้วยนะคะ และอย่าหลงเชื่อสรรพคุณมากจนยอมจ่ายในราคาที่มากเกินไปค่ะ
______________________________________________________________________________________________
ควรทานอบเชยแบบไหนและหาซื้อได้ที่ไหน
อบเชยนั้นก็มีอยู่หลากหลายประเภท อบเชย Cassia จะมีราคาถูกที่สุดและเป็นที่นิยมมากที่สุด (แต่ก็มีข้อควรสังเกตบางประการ) ส่วนแบบที่มีกลิ่นหอม รสหวาน และราคาค่อนข้างแพงก็คืออบเชย Caled (อบเชยซีลอน) บางครั้งก็เรียกว่าอบเชยแท้ หรืออบเชยจริง
ส่วนการหาซื้อนั้น แบบทั่วๆ ไปก็หาได้ตามซูเปอร์มาร์เก็ตแผนกเครื่องเทศค่ะ ส่วนใครที่อยากใช้อบเชยชนิดนำเข้าก็อาจต้องมาเดินซูเปอร์ อิเซตัน เซ็นทรัลเวิร์ล เซ็นทรัลชิดลมที่จะมีพวกผักผลไม้นำเข้าอยู่มากกว่า หรือจะไปเดินหาซื้อที่เยาวราชแถบที่ขายยาสมุนไพร เครื่องเทศก็ได้ค่ะ
และสำหรับคนที่คิดจะเลือกใช้เป็นแบบผง ผู้เขียนแนะนำให้ใช้แบบ Cinnamon Ground แทน Cinnamon Sugar ที่มีการผสมน้ำตาลลงไปนะคะ
ข้อควรระวังในการใช้
ถึงจะเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณมากมาย แต่ก็ยังมีข้อจำกัดในการใช้และมีโทษอยู่บ้างหากใช้ผิดวิธี ผู้อ่านต้องระวังไว้บ้างนะคะ
- ผู้ที่ต้องการใช้เพื่อลดความอ้วน แม้จะทานอบเชยแล้วก็ยังควรควบคุมปริมาณอาหารให้อยู่ในระดับเหมาะสมตามแผนได เอ็ทของตัวเอง โดยเฉพาะแป้งและน้ำตาล เพราะอบเชยนั้นถือเป็นแค่ “ตัวช่วย” เท่านั้น ไม่ได้หมายความว่าถ้าทานอบเชยเยอะๆ แล้วจะหักลบน้ำตาลให้เหลือศูนย์ได้นะคะ
- ปริมาณที่แนะนำต่อวันคือวันละ 1 ช้อนชา ไม่ควรทานมากเกินกว่านี้ในระดับที่สูงมาก เพราะอาจทำให้เกิดโทษกับร่างกายได้ สำหรับผู้ป่วยเบาหวานที่ต้องการทานเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ และถ้าจะเลือกใช้ไม่ควรใช้อบเชย Cassia
- ผู้ที่มีอาการเลือดออกผิดปกติ ปัสสาวะขัด ปัสสาวะมีเลือดปน ไม่ควรใช้ หรือก่อนจะใช้ควรปรึกษาแพทย์
- “ห้าม” ทานน้ำมันอบเชย เพราะจะมีพิษต่อตับและไตได้
- เด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบ หรือสตรีมีครรภ์ ไม่ควรใช้ค่ะ
ขอบคุณที่มา http://www.goodlywomen.com
