ตาแดง: สาเหตุและความเสี่ยงทำการมองเห็นที่ลดลง

ตาแดงมีภาวะที่พบได้บ่อย ๆ เป็นสัญญาณเตือนผู้ป่วยว่า "คุณสมควรไปพบจักษุแพทย์แล้ว" ตาแดงมีความรุนแรงหลายระดับ และทำให้เกิดพยาธิสภาพหลากหลาย ความรุนแรงของโรคขึ้นอยู่กับสิ่งที่โรคแสดงออกมา เช่น การมองเห็นเลือนลางลง ตาเจ็บ มีความรู้สึกว่ามีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในตา ตาแพ้แสง และประวัติความเจ็บป่วยของผู้ป่วยในอดีต ต่อไปจะเล่าถึงสาเหตุของภาวะตาแดง และปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้การมองเห็นลดลง จนถึงตาบอดสนิท

 

1. ตาแดงอย่างเดียวไม่มีสัญญาณความเจ็บปวด หรือสัญญาณอื่นใด

ตาแดงโดยไม่มีความเจ็บปวด หรือ ไม่มีผลต่อการมองเห็น แสดงว่ามีเลือดออกใต้เยื่อตาขาว หรือ ช่องหน้าลูกตา ซึ่งอาการดังกล่าวอาจจะเนื่องมาจาก ความดันโลหิตสูง หรือ เยื่อบุตาขาวได้รับการบาดเจ็บ ภาวะตาแดงดังกล่าวจะหายไปได้เองในไม่กีวัน หรือสัปดาห์ และไม่มีผลต่อการมองเห็น

2. ตาแดงและมีขี้ตา

เยื่อบุตาอักเสบเนื่อจากไวรัส และแบคทีเรีย

เยื่อบุตาอักเสบจากไวรัส และแบคทีเรีย อาจเกิดขึ้นกับตาข้างใดข้างหนึ่ง หรือทั้งสองข้าง ซึ่งจะทำให้ตาแดง มีน้ำตา และขี้ตาไหลออกมา เปลือกตาบวม และเปลือกตาอาจจะติดและลืมตาลำบาก อย่างไรก็ตามการมองเห็นของผู้ป่วยลักษณะนี้ก็ยังเป็นปกติดี เยื่อบุตาอักเสบประเภทนี้ อาจจะทำให้กระจกตาอักเสบตามมา และเป็นสาเหตุทำให้การมองเห็นของผู้ป่วยลดลง และเป็นสาเหตุทำให้เกิดแผลเป็นที่กระจกตา และทำให้การมองเห็นลดลงอย่างถาวร

เยื่อบุตาอักเสบเนื่องจากการแพ้

เยื่อบุตาอักเสบประเภทนี้มักเกิดขึ้นพร้อมกันทั้งสองข้าง ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยรู้สึกรำคาญเป็นอย่างมาก ผู้ป่วยจะรู้สึกเหมือนกับมีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในตา ตาแพ้แสง และอาจจะพบว่ามีน้ำตาและขี้ตาไหล หนังตาบวม มีขี้ตาไหลออกมา ผู้ป่วยบางคนยอาจจะมีประวัตการแพ้อื่นๆ มาก่อนเช่น โพรงจมูกอักเสบจากการแพ้ และอาการหอบหึด

  • เยื่อบุตาอักเสบจากการแพ้ตามฤดูกาล: กรณีเช่นนี้พบได้บ่อยในเด็กผู้ชายอายุ 7 ถึง 15 ปี ซึ่งจะเกิดการอักเสบแบบเฉียบพลันเป็นครั้งเป็นคราว และจะเป็นเช่นนี้อยู่หลายปีกว่าจะหาย เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะทำให้การมองเห็นเลือนลาง หรือตาบอด ผู้ป่วยควรได้รับการรักษาที่จำเพาะ และต้องมีการติดตามผลการรักษาที่ดีด้วย
  • การอักเสบของเยื่อบุตา และหนังตา จากการสัมผัสกับสิ่งก่อให้เกิดการแพ้: กรณีเช่นนี้จะทำให้ตาหนังบวม และมีน้ำตาไหล สารที่ก่อให้เกิดการแพ้ที่พบได้บ่อยว่าเป็นสาเหตุ เช่น ยาหยอดตา เครื่องสำอาค์ และสารเคมีต่าง ๆ ผู้ป่วยที่เกิดอาการเช่นนี้ต้องได้รับการรักษาให้ทันเวลา มิเช่นนั้นการมองเห็นของผู้ป่วยอาจจะมีปัญหาได้
  • โรค Steven-Johnson syndrome: กรณีเช่นนี้เกิดขึ้นเมื่อ ผู้ป่วยแพ้ยาบางชนิด ผิวหนัง และเยื่อเมือก ต่าง ๆ จะแสดงอาการแพ้ออกมา ตาทั้งสองข้างจะเปลี่ยนเป็นสีแดง มากน้อยแล้วแต่อาการแพ้ นอกจากนี้อาจจะพบเยื่อบุตาอักเสบ หรือเยื่อบุตาเกิดการตายเฉพาะส่วน ซึ่งจะทำให้ตาของผู้ป่วยแห้งเป็นอย่างรุนแรง เพื่อป้องกันให้ผู้ป่วยมองเห็นได้เหมือนปกติ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องรักษาควบคู่กันไป ทั้งการรักษาทั้งระบบ และดูแลเฉพาะส่วนดวงตา

3. ตาแดงร่วมกับอาการเจ็บปวด

  • กระจกตา ได้รับบาดเจ็บ: อาการเจ็บตา เคืองตา เป็นอาการที่น่ารำคาญอย่างมากสำหรับผู้ป่วยก็ว่าได้ ผู้ป่วยที่กระจกตาได้รับบาดเจ็บ ต้องรีบไปพบจักษุแพทย์ทันที เป็นสาเหตุทำให้ตาแดง และน้ำตาไหล ตาลืมไม่ค่อยขึ้น สาเหตุที่พบได้บ่อยว่าทำให้เกิดการบาดเจ็บที่กระจกตาคือ ฝุ่น หรือสิ่งแปลกปลอม สิ่งที่ผู้ป่วยควรทำหลังจากที่มีฝุ่น หรือสิ่งแปลกปลอมเข้าตา คือการล้างตาด้วยน้ำสะอาด อย่าขยี้ หรือถูตา หรือพยายามเอาสิ่งแปลกปลอมนั้นออกด้วยตัวเอง การเอาสิ่งแปลกปลอมออกเอง โดยไม่มีเครื่องมือที่เหมาะสม การขยี้ตา ทำให้กระจกตาเป็นแผล เป็นช่องทางให้ติดเชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อราที่กระจกตาได้ ทำให้การมองเห็นเลือนลาง และตาบอดได้ในที่สุด
  • Acute iridocyclitis หรือ ม่านตาอักเสบ: เป็นกรณีฉุกเฉินทางการแพทย์ ที่ผู้ป่วยต้องได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที พบได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ในตอนแรก ๆ ตาข้างใดข้างหนึ่งอาจจะแดงเรื่อ ๆ และการมองเห็นก็ลดลงไปเล็กน้อย ในวัน หรือสองวันแรก ผู้ป่วยอาจจะไม่สนใจกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ เมื่อมีการพัฒนาของโรคจนถึงระดับหนึ่ง ตาของผู้ป่วยจะแดง และเจ็บปวด การมองเห็นจะแย่มาก ถ้ารักษาไม่ทันเวลาผู้ป่วยอาจสูญเสียการมองเห็นตลอดไป
  • Episcleritis or scleritis: the presentation of this condition is severe pain with localized redness in a part of the sclera (the white portion of the eye) that forces the patient to seek consultation. Scleritis can be one of manifestations of systemic diseases like polyarthrisis, ankylosing spondylitis and vasculitis or can arise after ocular surgery and trauma. A close observation and proper treatment is necessary for protection of visual acuity.
  • Glaucome: Symptoms of extreme eye pain, blurry vision and eye redness are of acute angle-closure glaucoma. Migraine can be an associated symptom. Glaucoma has high risk of serious vision loss.
  • Ocular trauma: Common eye injuries include chemical burns, ocular trauma by sharp objects. On examination, conjunctival, corneal inflammation, ocular tear, cataract, intracorneal hemorrhage, retinal detachment can be found. Patients presenting with ocular trauma may have risk of very bad vision or blindness.

*ข้อความที่เป็นโฆษณาทั้งหมดใน eldercarethailand.com ท่านผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณของท่านในการตัดสินใจ กรุณารวบรวมข้อมูลให้รอบด้านก่อนตัดสินใจเลือก ทาง Elder Care Thailand ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำของทางศูนย์ดูแลฯ ใด ๆ ทั้งสิน*

Copyright © 2011 ข้อมูล ดูแลผู้สูงอายุ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ การดูแลผู้สูงอายุ Eldercarethailand. Designed by eldercarethailand